ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะของนายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการ ร.ม.ว.กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่ติดตามตรวจสอบสิ่งก่อสร้างที่ผิดกฎหมายในเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม กว่า 13,000 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ดอยม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง ใน ต.โป่งแยง และ ต.แม่แรม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ นั้น คณะทำงานยืนยันว่า ปัจจุบันมีผู้ที่เข้าข่ายในการกระทำความผิด เข้ามาทำรีสอร์ทหรือประกอบธุรกิจโรงแรมที่พัก ทั้งสิ้น 113 ราย เป็นการนำที่ดินไปใช้ไม่ถูกต้องตามวัตถุประสงค์ของโครงการหลวง แบ่งเป็นกลุ่มทำผิดเล็กน้อย 82 ราย และทำผิดชัดเจน 30 ราย โดยกลุ่มนี้มีการเปลี่ยนมือเจ้าของหรือมีการขายกิจการให้กับนายทุนต่างชาติ จึงจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายจนถึงที่สุด หลังจากมีการแจ้งความดำเนินคดีมาตั้งแต่ ธันวาคม 2562 ได้เปิดโอกาสให้เจ้าของอุทธรณ์ โต้แย้ง และใช้สิทธิทางกฎหมายชี้แจงการครอบครองที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของตนเองอย่างเต็มที่ในทุก ๆ เรื่อง ระยะเวลากว่า 8 เดือน จนมาถึงวันนี้ ครบกำหนดและสิ้นสุดการใช้สิทธิดังกล่าวแล้ว จึงต้องใช้กฎหมาย มาตรา 25 เริ่มดำเนินการรื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง โดยได้เริ่มต้นจากม่อนดอยลอยฟ้า ซึ่งถือว่าเป็นรีสอร์ทแห่งแรกที่ถูกดำเนินการรื้อถอน
ด้านสำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 (เชียงใหม่) ได้เสนอให้มีการจัดตั้งคณะกรรมการจัดระเบียบที่อยู่อาศัย-ทำกิน ในพื้นที่ป่าป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ริม (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) ร่วมติดตามเฝ้าระวังและร่วมกันแก้ไขปัญหา ไม่ให้มีผู้กระทำผิดเพิ่มขึ้นอีก และเมื่อการแก้ไขปัญหาที่ดินที่ม่อนแจ่มประสบผลสำเร็จแล้วจะเป็นต้นแบบในการแก้ไขปัญหาให้กับเขตพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติฯ อื่น ๆ ต่อไป
อย่างไรก็ตามกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม กล่าวว่า กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มอบหมายหน่วยงานเฉพาะกิจ รวมถึง สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 1 เชียงใหม่ปฏิบัติการรื้อถอนรีสอร์ทผิดกฎหมายบนดอยม่อนแจ่ม หลังครบกำหนดสิ้นสุดยื่นอุทธรณ์ทางกฎหมาย ก็เป็นสิ่งที่ผู้กระทำความผิดต้องยอมรับ
“แต่ไม่เข้าใจว่า ทำไมการลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้าจะมาทุกช่วงวันหยุด และใกล้ช่วงวันหยุดยาว 4 – 7 ก.ย. นี้อีก
ซึ่งจะเป็นจังหวะที่ผู้ประกอบการรีสอร์ทที่พัก กิจการนำเที่ยว ภาคบริการที่เกี่ยวข้องกับท่องเที่ยวเชียงใหม่ได้รับอานิสงน์ ทุกวันนี้ชาวบ้านที่ลงทุน ต่างโอดครวญกับทุนที่จมหายวับไป ต้องดิ้นรนหาทางทำมาหากินด้านอื่นแทน
อยากให้ภาครัฐ มองมิติทางเศรษฐกิจ สังคมอย่างรอบด้านด้วยว่า ทำการเกษตร เพาะปลูกพืช เมื่อเก็บเกี่ยวผลผลิตขนนำไปจำหน่ายตามแหล่งค้าปลีก ค้าส่ง ก็มีรายได้ไม่มากพอ จะส่งลูกหลานเรียน ผ่อนรถที่เป็นสิ่งจำเป็น ดังนั้นการเกษตรผสมผสานบนม่อนแจ่ม ปลูกพืชพรรณต่าง ๆ ให้นักท่องเที่ยว มีที่พักท่ามกลางธรรมชาติด้วย กลุ่มที่พยายามปรับตัว ทำให้ถูกต้องตามเงื่อนไขก็ต้องให้โอกาสบ้าง”
ทั้งนี้จากการตรวจสอบของทีมข่าว ในการจองห้องพักช่วงวันหยุดยาว 4 – 7 กันยายนนี้ พบว่า ห้องพัก ส่วนใหญ่มีการจองเกือบเต็ม หลาย ๆ ม่อนดอย ขยับราคาเพิ่ม เช่น โดมพัก 2 คน ปกติ 1,800 – 2,000 บาท ขยับเป็น 2,200-2,500 บาท พัก 2 คน มีห้องน้ำส่วนตัว และ จากการลองติดต่อหลาย ๆ ที่ส่วนใหญ่ มีการจองห้องพัก ล่วงหน้า โดยเฉพาะช่วงสิ้นปี ส่วนใหญ่ห้องพักไม่ว่าง
สำหรับการจัดระเบียบม่อนแจ่มนั้น ในเพจ คุยกับอธิบดีกรมป่าไม้ (นายอรรถพล เจริญชันษา) ได้ระบุความคืบหน้าการติดตามไล่รื้อรีสอร์ท ที่พักซึ่งทำผิดกฎหมาย โดยมอบหมายให้นายกมล นวลใย ผอ. สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่1 เชียงใหม่ พร้อมชุดพยัคฆ์ไพร กรมป่าไม้ และ หลายภาคส่วนบูรณาการจัดระเบียบการใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าสงวนฯแม่ริม (ม่อนแจ่มและพื้นที่ใกล้เคียง) ล่าสุดมอบหมายให้ดำเนินการกับม่อนวิวงาม พร้อมยึดคืนพื้นที่กว่า 22 ไร่
ขณะเดียวกัน นายอรรถชา กัมปนาทแสนยากร นายอำเภอแม่ริม พร้อมด้วยนายวัน ม่วงมา นายก อบต.โป่งแยง นาย
วิชัย ชัยวิทย์นนท์ นายก ทต.แม่แรม และนายสัมพันธ์ พุฒด้วง ผอ.ศูนย์ป่าไม้เชียงใหม่ และกองอำนวยการส่วนหน้า (ม่อนแจ่ม) ตลอดจนเจ้าหน้าที่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องโครงการจัดระเบียบม่อนแจ่ม ก็ยังคงเดินหน้า ติดประกาศขอความร่วมมือ โรงแรม รีสอร์ท ที่พัก กิจการร้านกาแฟร้านอาหาร ในพื้นที่ ให้ปฏิบัติตามข้อตกลงที่ประชุมเป็นบันทึกข้อตกลงร่วมกัน เพื่อความเป็นระเบียบของพื้นที่ตาม “โมเดลม่อนแจ่ม” ที่จะขยายผล นำร่องไปสู่การจัดระเบียบพื้นที่การใช้ประโยชน์ป่าสวงนแห่งชาติอื่น ๆ ต่อไป
"ที่พัก" - Google News
August 31, 2020 at 11:08AM
https://ift.tt/3ly4RYh
รื้อรีสอร์ท ที่พักม่อนแจ่ม วิสาหกิจชุมชนครวญอยู่ลำบาก แต่วันหยุดยาวที่พักจองเพียบ - เชียงไหม่นิวส์
"ที่พัก" - Google News
https://ift.tt/3eGWZzn
No comments:
Post a Comment